ทำความรู้จักกับ Gautier Massonneau ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Trilobe

ด้วยกลไกดิสก์หมุนอันเป็นเอกลักษณ์ นาฬิกา Trilobe ได้พลิกมุมมองของโลกเรือนเวลากลไก ด้วยแนวทางที่ล้ำสมัยและเปี่ยมด้วยจินตนาการ เราได้มีโอกาสพูดคุยกับ Gautier Massonneau ซีอีโอและผู้ก่อตั้งแบรนด์ เพื่อเจาะลึกเบื้องหลังการก่อกำเนิดของแบรนด์น้องใหม่ที่กำลังเป็นที่จับตามอง กระบวนการสร้างสรรค์ที่ไม่ธรรมดา และความภาคภูมิใจในความเป็นชาวปารีเซียงของเขา

“สนุกมากเลยครับ เอาจริง ๆ แล้ว ผมไม่รู้สึกว่าตัวเองได้ ‘ทำงาน’ แม้แต่วันเดียวตลอดช่วงห้าถึงเจ็ดปีที่ผ่านมา” Gautier Massonneau กล่าวพร้อมรอยยิ้มอบอุ่นระหว่างบทสัมภาษณ์ ความหลงใหลในสิ่งที่ทำปรากฏชัดบนใบหน้าของชายผู้นี้ ซีอีโอ ผู้ก่อตั้ง และผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของแบรนด์นาฬิกา Trilobe ก่อนจะเริ่มต้นสร้างแบรนด์ด้วยตนเอง ชายหนุ่มชาวฝรั่งเศสวัย 33 ปี ผู้เกิดและเติบโตในกรุงปารีส แทบไม่มีความเกี่ยวข้องกับโลกของการทำนาฬิกาเลยแม้แต่น้อย เขาเติบโตมาในครอบครัวของสถาปนิก ขณะที่เส้นทางอาชีพของเขาเริ่มต้นในสายงานการเงิน พร้อมโปรไฟล์ที่น่าสนใจ ทั้งในด้านการพัฒนาโครงการและโครงสร้างพื้นฐานในเมืองใหญ่อย่างโตเกียว ดูไบ ไปจนถึงแถบแอฟริกาตะวันออกเฉียงใต้

“ตั้งแต่เด็ก เรื่องของรูปทรงและพื้นผิวก็เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของดีเอ็นเอในครอบครัวเราเลยครับ” Gautier Massonneau เล่า “เรามักจะสนุกกับความท้าทายที่กระตุ้นความคิด ชอบตั้งคำถามกับสิ่งรอบตัวว่าทำไมบางอย่างถึงเป็นเช่นนั้น หรือทำไมถึงไม่เป็นอีกแบบหนึ่ง” เขาหัวเราะเบา ๆ ก่อนเสริมอย่างติดตลกว่า“เช้านี้ผมยังแอบคิดอยู่เลยว่า… ทำไมคนอังกฤษถึงเลือกขับรถฝั่งซ้าย?”

เห็นได้ชัดว่า Gautier Massonneau มีความอยากรู้อยากเห็นโดยธรรมชาติ ในขณะที่บางคนอาจใช้เวลานานในการตามหานาฬิกาที่สมบูรณ์แบบ ผู้ก่อตั้ง Trilobe กลับมีแนวคิดที่แตกต่างออกไป “ผมกำลังมองหานาฬิกาเรือนแรกที่มีความโดดเด่นและไม่เหมือนใคร แต่ยังคงไว้ซึ่งความคลาสสิก ผมเคยสนใจนาฬิกา A. Lange & Söhne Zeitwerk แต่ในวัย 24 ปี ผมยังไม่มีงบประมาณเพียงพอ จึงตัดสินใจที่จะสร้างนาฬิกาของตัวเองขึ้นมา”

ในฐานะผู้ที่รักการเรียนรู้ด้วยตนเองอย่างต่อเนื่อง Gautier Massonneau ได้ทุ่มเทศึกษาจากหนังสือ ทดลองคำนวณ และร่างภาพเพื่อเข้าใจวิธีการสร้างนาฬิกา “แต่ท้ายที่สุดก็ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะการทำนาฬิกานั้นซับซ้อนมาก ผมใช้เวลาศึกษาอยู่ราวสองปี จึงเริ่มตระหนักว่าต้องหาผู้เชี่ยวชาญมาร่วมมือ ผมหันไปหาพันธมิตรชาวสวิส และตัดสินใจกลับสู่ฝรั่งเศสเพื่อเริ่มต้นสร้างแบรนด์ของตัวเองอย่างจริงจัง เราได้เปิดตัว Trilobe อย่างเป็นทางการในเดือนธันวาคม 2018 และจนถึงปัจจุบันก็ผ่านมาแล้วหลายปี”

นาฬิการุ่นแรกที่ Trilobe เปิดตัวคือ Les Matinaux (The Morning) ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากหนังสือบทกวีกลางศตวรรษของ René Char ตัวเรือนโดดเด่นด้วยดิสก์หมุนสามวงและเข็มสามอันที่ออกแบบในรูปทรงโลโก้ใบโคลเวอร์สามแฉกซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ สร้างความประทับใจด้วยวิธีบอกเวลาที่ไม่เหมือนใคร นาฬิการุ่นนี้ถือกำเนิดจากมิตรภาพที่เกิดขึ้นกับ Jean-François Mojon หลังการพบปะครั้งแรกที่ประสบความสำเร็จจนทำให้ Gautier Massonneau พลาดเที่ยวบินกลับบ้าน “ผมมีโอกาสได้พบกับ Jean-François Mojon ที่เจนีวา ซึ่งนัดหมายกันไว้ว่าจะพูดคุยกันประมาณ 30 ถึง 60 นาที ตอนนั้นผมอาศัยอยู่ที่ดูไบและมีกำหนดบินกลับในช่วงบ่าย เขาชื่นชอบโปรเจกต์นี้มาก ทำให้เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วระหว่างที่เรานั่งแลกเปลี่ยนไอเดียกัน”

หลังจากร่วมงานกับ Mojon และ Chronode มาเป็นเวลาหลายปี Gautier Massonneau ก็ได้จับมือกับ Le Cercle des Horlogers เพื่อพัฒนากลไกที่จดสิทธิบัตรของตัวเองในชื่อ X-Centric ซึ่งสำเร็จลุล่วงในปี 2020 และขณะนี้กลไกนี้ขับเคลื่อนนาฬิกาทุกรุ่นของ Trilobe ต่อมาในปี 2021 นาฬิการุ่นที่สองของ Trilobe คือ Nuit Fantastique (Fantastic Night) ได้เปิดตัว โดยได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องสั้นแนวแฟนตาซีในปี 1920 ของนักเขียนนวนิยาย Stefan Zweig รุ่นที่สาม Une Folle Journée (A Crazy Day) ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากบทละครของนักเขียนบทละครและช่างทำนาฬิกาชาวฝรั่งเศส Beaumarchais ถูกเผยโฉมในงาน Watches and Wonders 2022 ในปีเดียวกัน Nuit Fantastique Dune ของ Trilobe ยังได้รับรางวัล Petite Aiguille จากงาน GPHG อีกด้วย

นอกจากการพัฒนานาฬิกาแล้ว Trilobe ยังให้ความสำคัญกับโปรเจกต์ความร่วมมือกับพันธมิตรจากหลากหลายวงการ ไม่ว่าจะเป็น Elie Bleu ช่างทำเฟอร์นิเจอร์ หรือ Daniel Buren ศิลปินแนวความคิดผู้ทรงอิทธิพลแห่งฝรั่งเศส เมื่อถูกถามถึงแนวทางในการทำงานร่วมกันกับศิลปินเหล่านี้ Gautier Massonneau ยอมรับอย่างเปิดเผยว่าเขามีใจรักในศิลปะอย่างลึกซึ้ง “Daniel Buren ถือเป็นหนึ่งในศิลปินชาวฝรั่งเศสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนี้ และก็มีเรื่องขำ ๆ ” เขาเล่าพร้อมรอยยิ้ม “ตอนที่เราได้พบเขาครั้งแรกผ่าน Kamel Mennour ซึ่งเป็นเจ้าของแกลเลอรีของเขา Daniel บอกกับเราตรง ๆ ว่า เขาไม่เข้าใจเลยว่ามานัดพบกันทำไม เพราะอย่างแรก เขาเกลียดนาฬิกา และอย่างที่สอง เขาไม่เคยร่วมงานกับใครมาก่อนเลย”

“พวกเราใช้เวลาสามชั่วโมงอธิบายวิสัยทัศน์ให้เขาฟัง ว่าเรามิได้ผลิตนาฬิกาตามความคิดดั้งเดิม หากแต่สร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่บอกเวลาได้ในท้ายที่สุด” Gautier Massonneau กล่าว ก่อนจะอ้างคำพูดของ Jean-Claude Biver ว่า “อย่างที่เขาว่าไว้ ไม่มีใครจ่ายเงินหนึ่งแสนดอลลาร์แค่เพื่อดูเวลา ถ้าคุณทำแบบนั้น ก็คงโง่น่าดู เพราะแค่ซื้อ Apple Watch ก็พอแล้ว”

ย้อนกลับมาที่ภาพรวมในเรื่องความร่วมมือ Gautier Massonneau ซีอีโอของ Trilobe ยืนยันอย่างชัดเจนว่าเขาเชื่อในการจำกัดจำนวนโปรเจกต์ลักษณะนี้ แม้จะยอมรับว่าความร่วมมือสามารถสร้างรายได้เข้ามา แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะทำลายคอลเลกชั่นหลักของแบรนด์ได้ “เราต้องการสร้างแบรนด์ให้เป็นเมซงที่มั่นคง ดังนั้นเมื่อมองถึงคุณค่าในระยะยาว ผมไม่คิดว่านั่นคือแนวทางที่เหมาะสมสักเท่าไหร่”

“ผมรักการทำนาฬิกา แต่จริง ๆ แล้ว ไม่ใช่เป็นแหล่งแรงบันดาลใจหลักของผม” Gautier Massonneau กล่าว “ปารีสต่างหากที่เป็นแรงบันดาลใจ การได้อยู่ท่ามกลางวัฒนธรรม อาหาร และสถาปัตยกรรมของที่นี่” เขาเสริมด้วยว่า การอ่านหนังสือก็ช่วยเติมเต็มแรงบันดาลใจ โดยเฉพาะนิยายวิทยาศาสตร์ (พร้อมแนะนำไตรภาค Three-Body Problem ของ Liu Cixin นักเขียนนิยายไซไฟชาวจีน) อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่า ข้อเสียเพียงอย่างเดียวของการไม่ได้ตั้งฐานอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์คือ ความท้าทายในการสร้างและรักษาความสัมพันธ์กับพันธมิตรในอุตสาหกรรม “แต่อีกด้านหนึ่ง สภาพแวดล้อมในปารีสก็ยอดเยี่ยมมากสำหรับการหล่อเลี้ยงความคิดสร้างสรรค์”

สถาปัตยกรรมและการตกแต่งภายในท้องถิ่นถือเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจที่ชัดเจน หน้าต่างกุหลาบของโบสถ์ Sainte-Chapelle คือแรงบันดาลใจเบื้องหลังลวดลายดอกไม้ที่เปิดโปร่งของนาฬิการุ่น Les Matinaux ขณะที่โคมไฟระย้าที่โรงโอเปร่าแห่งปารีสเป็นต้นแบบสำหรับรุ่นประดับเพชร Une Folle Journée ส่วนคอลเลกชั่นที่สร้างความประทับใจและความชื่นชมอยู่เสมอ และในฐานะผู้ที่ได้สร้างสรรค์สิ่งที่แตกต่างอย่างโดดเด่น เราจึงอดไม่ได้ที่จะถามว่ามีแรงกดดันบ้างไหมกับคำถามที่ว่า ‘ต่อไปจะเป็นอะไร?’ เขาตอบอย่างผ่อนคลายว่า:

“เรื่องนี้น่าขบขันครับ เพราะตอนที่เปิดตัวแบรนด์ครั้งแรก กลุ่มที่สนใจส่วนใหญ่มาจากฝรั่งเศส ผมเองก็เกิดและเติบโตที่ปารีส ดังนั้นผมจึงคิดว่าคนฝรั่งเศสคือกลุ่มคนที่จะชื่นชมอะไรยากที่สุด คุณคงคุ้นเคยกับเสื้อยืด ‘I love New York’ ใช่ไหมครับ? ที่ปารีสเอง เรามีเสื้อยืดที่พิมพ์ว่า ‘I love Rien, I am Parisian’ ผมไม่ชอบอะไรแบบนี้เลย เพราะผมเป็นคนปารีส’ ซึ่งสะท้อนความจริงที่ว่าหากคุณสามารถทำให้คนปารีสที่มีรสนิยมเฉพาะตัวสูง เชื่อว่าสิ่งนั้นดีได้ คุณก็สามารถทำให้ทุกคนเชื่อได้เช่นกัน”

Gautier Massonneau เสริมว่า ทัศนคติของผู้คนก็เปลี่ยนได้เช่นกัน โดยเฉพาะหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันวงการนาฬิกาอิสระให้เติบโตขึ้น “ช่วงแรก ๆ ใช่ครับ เรามักเจอคนปารีสที่ถามว่า ‘แล้วต่อไปล่ะ?’ แต่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เราก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เราสามารถสร้างสรรค์คอลเลกชั่นที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงถึงสามชุด โดยยังคงใช้กลไกพื้นฐานชุดเดียวกัน”

“ผมชอบพิสูจน์ด้วยผลงาน” เขากล่าวเสริม “ที่ผ่านมาเราต้องเผชิญทั้งเหตุประท้วง Yellow Vests Movement หรือ Gilets Jaunes และการนัดหยุดงานในฝรั่งเศส โควิด-19 และสงครามในยูเครนที่ยืดเยื้อเกือบปี แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังแสดงให้เห็นว่าเรายังสามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ และทำอะไรเจ๋ง ๆ ได้อยู่เสมอ ความคิดสร้างสรรค์ไม่เคยเป็นอุปสรรคเลยด้วยซ้ำ กลับเป็นส่วนที่ง่ายที่สุดเสียอีก”

ในฐานะแบรนด์นาฬิกาอิสระรุ่นใหม่ Trilobe ได้รับความสนใจจากเหล่านักสะสมและผู้หลงใหลในนาฬิกา แต่แบรนด์เปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหนตั้งแต่วันแรกที่เริ่มต้น? Gautier Massonneau หัวเราะเบา ๆ เมื่อได้ยินคำถามนี้ ก่อนจะตอบว่า แผนธุรกิจในตอนนั้น ไม่มีอะไรเป็นไปตามที่วางไว้เลย

“เรามีเป้าหมายที่ชัดเจนมาตั้งแต่แรก และจุดนั้นไม่เคยเปลี่ยนไป” เขากล่าว “แต่สิ่งที่เปลี่ยนคือแนวทางในการดำเนินธุรกิจ ในช่วงเริ่มต้น เราไม่เคยคิดว่าจะต้องมีทีมช่างนาฬิกาเป็นของตัวเอง เพราะตอนนั้นเราเชื่อว่า การร่วมงานกับผู้ผลิตที่มีฝีมือในสวิตเซอร์แลนด์ก็น่าจะเพียงพอแล้ว”

แต่เมื่อแบรนด์เติบโตขึ้น Gautier Massonneau และทีมก็เริ่มเข้าใจมากขึ้นว่า Trilobe ต้องการอะไรเพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายที่วางไว้ พวกเขารู้ดีว่าตัวเองมีวิธีการบอกเวลาที่ไม่เหมือนใคร และอยากเล่าเรื่องราวของแบรนด์ในแบบที่ต่างออกไปพร้อมลูกเล่นที่น่าจดจำ “เราสรุปกันได้ว่า การมีช่างนาฬิกาเป็นของตัวเองเป็นสิ่งสำคัญมาก และต้องการสร้างเรื่องราวใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อพิจารณาว่า นับตั้งแต่ Breguet ย้ายออกจากปารีสเมื่อ 200 ปีก่อน ก็ยังไม่เคยมีผู้ผลิตนาฬิการายใดตั้งอยู่ในปารีสอีกเลย นั่นจึงกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเรา และโปรเจกต์นี้ก็น่าตื่นเต้นมาก ตอนนี้เรามีช่างนาฬิกาในทีมทั้งหมด 6 คน และมีเวิร์กช็อปของตัวเอง การได้ทำสิ่งต่าง ๆ บนแผ่นดินบ้านเกิดมีความหมายกับเรามากและบ้านของเราก็คือปารีส”

โดยอิงจากความหมายของคำว่า ‘Trilobe’ เราจึงถาม Gautier Massonneau ถึงสามแกนหลักที่สะท้อนศิลปะการผลิตนาฬิกาที่แบรนด์ยึดถือ คำตอบของเขาสะท้อนภาพได้อย่างชัดเจนว่าเหตุใดหลายคนจึงเชื่อว่าอนาคตของ Trilobe ในวงการนาฬิกาอิสระนั้นน่าจับตามอง

“ความคิดสร้างสรรค์และความแตกต่างคือสองแกนหลักแรก แต่ไม่ใช่แค่เพียงเพื่อความแตกต่างใดๆ ซึ่งใครๆ ก็สามารถออกแบบนาฬิกาที่ดูแปลกใหม่ได้ภายในเวลาเพียงห้านาที ความท้าทายที่แท้จริงคือการสร้างสรรค์สิ่งที่แตกต่างอย่างมีสไตล์และประณีต ต้องมีความสมเหตุสมผลในปัจจุบัน เคยมีความหมายเมื่อ 100 ปีก่อน และยังคงมีความหมายในอีก 100 ปีข้างหน้า” Gautier Massonneau กล่าว

“อีกหนึ่งสิ่งสำคัญคือการปรับแต่งเพื่อสะท้อนตัวตนของแต่ละคน นั่นคือความหมายที่แท้จริงของความหรูหรา แนวคิดนี้ถ่ายทอดไว้อย่างชัดเจนในคอลเลกชั่น ‘Secret’ ซึ่งเปิดโอกาสให้ลูกค้าเลือกวันที่ เวลา และสถานที่ที่มีความหมายลึกซึ้งในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นวันแรกที่พบกัน หรือวันแต่งงาน จากนั้นเราจะจำลองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวในคืนสำคัญนั้นมาไว้บนหน้าปัดนาฬิกา คอลเลกชั่นนี้จึงได้ชื่อว่า ‘Secret’ เพราะแม้คุณจะแสดงนาฬิกาให้ใครต่อใครดูได้ แต่หากไม่บอกเล่าเรื่องราวเบื้องหลัง ก็จะไม่มีใครล่วงรู้ถึงความหมายที่ซ่อนอยู่ ความหรูหราที่แท้จริงจึงควรเป็นสิ่งที่คุณเก็บไว้เพื่อเติมเต็มความรู้สึกของตนเอง” เขากล่าวเสริม

Trilobe คือบทพิสูจน์ว่าการทำนาฬิกาไม่จำเป็นต้องยึดติดกับรูปแบบเดิม ๆ แต่สามารถเป็นงานศิลปะที่สามารถบอกเล่าเรื่องราว ภายใต้แนวคิดหลักสามประการ คือ ความคิดสร้างสรรค์ ความแตกต่างอย่างมีชั้นเชิง และความหรูหราที่แท้จริง ซึ่งทาง Gautier Massonneau ได้สร้างแบรนด์ที่ไม่เพียงฉีกกรอบวงการนาฬิกา แต่ยังเติมเต็มจิตวิญญาณของความคิดสร้างสรรค์ Trilobe จึงไม่ใช่แค่เครื่องบอกเวลา แต่เป็นการสื่อสารเชิงศิลปะระหว่างผู้สร้างและผู้ครอบครอง