Our Father’s Day Picks for the Gentlemen of the Hour

Specialist Picks • 03 Dec 2023

Our Father’s Day Picks for the Gentlemen of the Hour


เมื่อเดือนธันวาคมมาถึงเทศกาลส่งต่อความสุขสำหรับชาวไทยเริ่มต้นกันตั้งแต่ทุกวันที่ 5 ธันวาคมของปี ซึ่งถือเป็นวันพ่อแห่งชาติ ส่วนใหญ่แล้วการเฉลิมฉลองอย่างเรียบง่ายและทรงคุณค่าย่อมเป็นการใช้เวลาร่วมกันภายในครอบครัว แต่ถ้าหากอยากมอบของขวัญแทนความรักและความสุขที่อยากมอบให้บุคคลสำคัญในชีวิต เครื่องบอกเวลาย่อมเป็นตัวแทนส่งความปรารถนาดีไปยังคุณพ่อที่รักและห่วงใยคุณเสมอ เดือนธันวาคมนี้ PMT The Hour Glass ขอเป็นสื่อกลางในการคัดสรรมานาฬิกาจักรกลชั้นสูงหลากสไตล์เพื่อเติมเต็มช่วงเวลาของคุณและคุณพ่อให้สมบูรณ์แบบ

 

For a Stylishly Cool Father: Hublot Square Bang Unico 42mm

รูปทรงที่แตกต่างสร้างเอกลักษณ์ที่จดจำได้ในทันที และตัวเรือนทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสหนึ่งใน Shape Collection ของ Hublot ก็สะท้อนเอกลักษณ์นั้นออกมาได้อย่างแจ่มชัด นั่นจึงเป็นสาเหตุให้นาฬิกา Hublot Square Bang Unico เหมาะสำหรับสุภาพบุรุษผู้โดดเด่นในด้านสไตล์ ยืนหยัดในตัวตนที่แตกต่างไม่ซ้ำใคร แน่นอนว่า เพียงแค่ตัวเรือนทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสก็สะดุดสายตาของผู้ที่มองหาความเฉพาะตัวได้แล้ว หากแต่ความเฉพาะตัวของ Square Bang Unico 42mm ยังบรรจุไว้ซึ่งความท้าทายทางด้านกลไก เนื่องด้วยการบรรจุกลไก Unico ลงในตัวเรือนทรงเหลี่ยมนั้นต้องอาศัยความชำนาญเฉพาะทาง ซึ่งโรงงานผลิตของ Hublot ก็สามารถก้าวข้ามข้อจำกัดนั้นได้สำเร็จ

 

Hublot Square Bang Unico Ceramic
Hublot Square Bang Unico White Ceramic and Black Magic 42mm

ไม่เพียงแต่ความแตกต่างทางรูปทรงที่น่าจะตอบโจทย์คุณพ่อผู้ไม่ประสงค์จะเดินตามรอยใคร ความหลากหลายทางวัสดุตัวเรือน ไม่ว่าจะเป็น ตัวเรือนเซรามิกสีขาวและสีดำที่สะท้อนความเรียบง่ายแต่ทรงพลัง ตัวเรือนแซฟไฟร์โปร่งใสที่เปิดเปลือยให้เห็นโครงสร้างกลไกภายในยังบ่งบอกความเป็นตัวของตัวเองอย่างภาคภูมิใจ

 

Hublot Square Bang Unico Sapphire
Hublot Square Bang Unico Sapphire 42mm

รวมถึงความหรูหราที่แฝงไว้ด้วยความเท่ล้ำสมัยอย่างใน Hublot Square Bang Unico Diamonds คอลเลกชันที่เติมประกายดึงดูดสายตาด้วยการประดับเพชรถึง 4 ระดับ บนตัวเรือนไทเทเนียมและคิงโกลด์ในรุ่นปกติ โดยในรุ่น High Jewellery จะเป็นตัวเรือนไวท์โกลด์และคิงโกลด์   สำหรับเวอร์ชันไทเทเนียมมาในสไตล์โมโนโครมที่ดูทันสมัยและสุขุม ขับประกายสีขาวแวววาวของเพชรสะท้อนภายใต้เฉดสีเทาขัดด้านของไทเทเนียมอย่างลุ่มลึก ส่วนเวอร์ชั่นคิงโกลด์ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความหรูหราอันรุ่มรวย ด้วยตัวเรือนคิงโกลด์สีทองเหลือบแดงที่ตัดกันอย่างเฉียบคมกับสายยางสีดำที่ดูดิบเท่ การประดับเพชร 4 ระดับที่แตกต่างกันไปในแต่ละเวอร์ชั่นยังเปิดโอกาสให้ผู้สวมใส่ได้เลือกฉาบประกายในแบบของตัวเองอย่างเต็มที่

 

แต่ละรุ่นในตระกูล Square Bang Unio มาในโครงสร้างสายยางที่มีน้ำหนักเบา กระชับ รับกับข้อมือ และแน่นอนว่า ติดตั้งมาพร้อมระบบ One-Click ที่เอื้อต่อการเปลี่ยนสาย สลับสับเปลี่ยนสไตล์ได้ตามต้องการ เปิดโอกาสให้คุณพ่อผู้ไม่เคยหยุดนิ่งในการอัพเดทสไตล์การแต่งตัวได้สนุกในทุกวันๆ

ค้นพบคอลเลกชัน Hublot Square Bang Unico 42mm ได้ที่ PMT The Hour Glass

 

For a Mechanical Savvy Father :  Girard-Perregaux Neo Constant Escapement

หลงใหลในเครื่องยนต์กลไก ไปจนถึงแก็ดเจ็ตล้ำสมัย หมั่นอัพเดทเรื่องเทคโนโลยีอย่างสม่ำเสมอ ถ้าหากคุณพ่อท่านไหนเข้าข่ายดังกล่าว คงต้องหลงรักในความซับซ้อนด้านกลไกภายในรูปแบบร่วมสมัยของ Girard-Perregaux Neo Constant Escapement

 

Girard-Perregaux Neo Constant Escapement
Girard-Perregaux Neo Constant Escapement

Neo Constant Escapement ถือเป็นวิวัฒนาการอันล้ำสมัยล่าสุดของแบรนด์นาฬิกาที่พัฒนาความเชี่ยวชาญด้านกลไกมากว่าสองศตวรรษ เพราะเป็นนาฬิกาที่มีความซับซ้อนด้านกลไกสูง และส่งมอบพลังงานในการขับเคลื่อนได้อย่างเสถียรสูงสุด โดยใช้วิธีการที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงเพื่อให้ได้พลังงานคงที่อันน่าเชื่อถือ ไม่ว่าจะเป็น การใช้ใบพัดซิลิเซียมอย่างชาญฉลาด ซึ่งช่วยให้มั่นใจว่าแอมพลิจูดของบาลานซ์คงความสม่ำเสมอ โดยไม่คำนึงถึงปริมาณพลังงานที่สะสมอยู่ภายในบาร์เรล

 

Girard-Perregaux Neo Constant Escapement

 

Neo Constant Escapement ยังแตกต่างจากนาฬิกาทั่วไปตรงที่มี ‘วงล้อที่ห้า’ ที่เชื่อมต่อกับชุดเฟือง วงล้อที่ห้าทำหน้าที่ถ่ายเทพลังงานไปยังเอสเคปวีลสองล้อ โดยแต่ละล้อมีฟันสามซี่ ซึ่งตรงกับความถี่ของการเคลื่อนไหว (3Hz) พลังงานที่ได้รับจากเอสเคปวีลหรืออาจไม่ได้รับพร้อมกัน หลังจากนั้นพลังงานจะถูกส่งผ่านคันโยกไปยังใบพัดซิลิเซียมที่โค้งงอ ซึ่ง Constant Escapement โดยใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติ ‘ยืดหยุ่นความเสถียรสองฝั่ง’ ของใบพัดซิลิเซียมที่บางกว่าเส้นผมมนุษย์ถึงหกเท่า ประกอบเข้ากับคันโยกที่ทำหน้าที่กระตุ้นจักรกรอก ประสิทธิภาพการออกแบบการเคลื่อนที่ที่แม่นยำนี้มี 20 ลำดับต่อการออสซิลเลชั่น ทำให้พลังงานคงที่และทำให้มั่นใจได้ว่าแอมพลิจูดจะสม่ำเสมอ รูปร่างที่สมมาตรของใบพัดและการวางตำแหน่งของเอสเคปต์วีลทั้งสองด้านของจักรกรอก ช่วยสร้างความมั่นใจได้ว่าพลังงานจะกระทำต่อศูนย์กลางของชิ้นส่วนควบคุมเพื่อให้การหมุนเป็นไปอย่างราบรื่น โครงสร้างที่แปลกและสร้างสรรค์นี้ให้ความเสถียรของอัตราที่ไม่ธรรมดาและยังเสริมประสิทธิภาพโครโนมิเตอร์

 

 

มากกว่าความซับซ้อนด้านกลไก Neo Constant Escapement  ยังเป็นผลลัพธ์ของแนวทางใหม่ในการออกแบบนาฬิกาของ Girard-Perregaux ถ่ายทอดผ่านตัวเรือนไทเทเนียมเกรด 5 ซึ่งมีน้ำหนักเบาสวมใส่สบายเหลือเชื่อ ความซับซ้อนของกลไกการทำงานยังถูกถ่ายทอดผ่านหน้าปัดโครงสร้างเปลือย เผยให้เห็นจุดเด่นด้านชิ้นส่วนกลไกอย่างสปริงเฟือง ที่มีใบพัดโค้งงออันเป็นเอกลักษณ์ ช่วยเสริมเสน่ห์น่าหลงใหลของ สืบสานมรดกของแบรนด์นาฬิกาเก่าแก่ ผสานความเชี่ยวชาญด้านพลังงานเข้ากับสุนทรียภาพอันเป็นเอกลักษณ์ที่เคารพอดีต แต่โอบรับปัจจุบันและอนาคต

ค้นพบคอลเลกชัน Girard-Perregaux Neo Constant Escapement ได้ที่ PMT The Hour Glass

 

For a One-of-a-Kind Father: Ulysse Nardin Freak One

ไม่เดินตามขนบเดิมๆ กล้าแหวกกฏเกณฑ์ และประสบความสำเร็จในวิถีของตนเองได้อย่างสมภาคภูมิ นาฬิกาดีกรีรางวัลนาฬิการะดับไอคอนิกยอดเยี่ยม จากเวทีอันทรงเกียรติ GPHG 2023 อย่าง Ulysse Nardin Freak ONE คู่ควรสำหรับการเป็นเพื่อนอยู่คู่ข้อมือของบุรุษบุกเบิกหนทางสู้เส้นชัยในชีวิตด้วยตนเองอย่างไม่หวั่นเกรง

 

Ulysse Nardin Freak ONE
Ulysse Nardin Freak ONE

ขึ้นชื่อว่าเป็นสมาชิกในตระกูล Freak ที่สั่นสะเทือนวงการนาฬิกา Ulysse Nardin Freak ONE ย่อมมากับความไม่ธรรมดา โดยรวบรวมทุกเอกลักษณ์ของตระกูล Freak มาพัฒนาให้เหนือชั้นไปอีกขั้นทั้งในเชิงกลไกและวัสดุ ไม่ว่าจะเป็น ระบบไกรเดอร์ที่ถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงกว่าระบบขึ้นลานทั่วไปถึงสองเท่า เทคโนโลยีไดมอนด์ซิลในดูอัลเอสเคปเมนต์

ที่ทำขึ้นจากซิลิคอนเคลือบผิวด้วยเพชร ทำให้การส่งต่อพลังงานมีประสิทธิภาพสูงสุด เช่นเดียวกับซิลิคอนเอสเคปเมนต์เทคโนโลยีที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการนาฬิกา ทั้งยังเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้นาฬิกาตระกูล Freak ถือกำเนิดขึ้นได้ ด้วยวัสดุที่มีน้ำหนักเบาและมีความยืดหยุ่นสูง ช่วยลดแรงเสียดทาน ในขณะเดียวกันก็ยังมีความทนทานสูงสุด นับเป็นวัสดุที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการนาฬิกาสืบเนื่องมาจนถึงวันนี้

 

 

ด้านรูปลักษณ์ยังคงเอกลักษณ์ในตัวตนของ Freak อันปราศจากเข็มนาฬิกา ปราศจากหน้าปัด  และปราศจากเม็ดมะยม เพิ่มสัมผัสอันน่าอัศจรรย์ด้วยการปรับตั้งเวลาผ่านขอบหน้าปัด แทนการปรับตั้งเวลาด้วยเม็ดมะยมแบบดั้งเดิม สร้างประสบการณ์ใหม่ที่ทำให้ผู้สวมใส่รู้สึกเสมือนได้ก้าวเข้าสู่โลกอนาคตแห่งเครื่องบอกเวลา

ส่วนการอ่านค่าเวลายังคงยึดปรัชญา “Movement is King” อย่างแน่วแน่ ด้วยการบอกเวลาผ่านการหมุนของชุดกลไก Flying Carousel ซึ่งจะหมุนครบรอบภายใน 60 นาที โดยมีปลายข้างหนึ่งของสะพานจักรตกแต่งให้เป็นรูปทรงหัวลูกศรพร้อมเคลือบสารเรืองแสง Super-LumiNova สำหรับบอกเวลาหน่วยนาที ในขณะที่ด้านล่างมีการติดตั้งจานดิสก์แบบวงแหวนสีดำตกแต่งด้วยลวดลาย Sunray และสัญลักษณ์หัวลูกศรเคลือบ Super-LumiNova’ ทำหน้าที่แสดงหน่วยชั่วโมง

Ulysse Nardin Freak ONE มาในตัวเรือนไทเทเนียมเคลือบดีแอลซีขัดผิวแมตต์สลับขัดเงา ขนาด 44.0 มิลลิเมตร หนา 12.0 มิลลิเมตร ติดตั้งด้วยวงแหวนขอบตัวเรือน 5N โรสโกลด์ จับคู่กับสายยางสีดำที่แต่งพื้นผิวลาย ‘Ballistic’ คู่ควรกับบุรุษผู้มีความโดดเด่นในทุกมิติ

ค้นพบคอลเลกชัน Ulysse Nardin Freak ONE ได้ที่ PMT The Hour Glass

 

For an Adrenaline-Driven Father: MB&F HM8 Mark2

ช่วงเวลาที่อะดรีนาลีนสูบฉีดไปทั่วร่าง คือ ความรู้สึกที่กระตุ้นเตือนว่า การมีชีวิตอยู่ในแต่ละวินาทีนั้นมีค่าแค่ไหน และสิ่งนั้นทำให้บุรุษผู้คลั่งไคล้ในความรู้สึกดังกล่าวลุ่มหลงในยานพาหนะที่จะนำพาไปถึงความรู้สึกดังกล่าว และไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ด้วยความเร็วและความแรงของสมรรถนะเครื่องยนต์

 

MB&F HM8 Mark2
MB&F HM8 Mark2

ไม่น่าเชื่อว่า นวัตกรรมเครื่องจักรกลบอกเวลาสุดล้ำอย่าง HM8 Mark2 สามารถทดแทนความรู้สึกอันแสนเร้าใจนั้นได้ แต่ทุกความฝันเป็นไปได้จริงเมื่อบุรุษผู้ไม่เคยละทิ้งความหลงใหลในวัยเยาว์อย่าง Maximilian Busser แห่ง MB&F ตัดสินใจสร้างนาฬิกาที่ได้แรงบันดาลใจจากยนตรกรรมชั้นยอด รหัสงานออกแบบมาจากรถแข่ง Can-Am ใน Canadian American Racing Championshipอันโด่ง ขณะเดียวกัน HM8 Mark 2 ยังค้นพบแรงบันดาลใจจากสุดยอดยนตรกรรมหลากหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น รูปทรงของตัวเรือนที่จุดประกายไอเดียมาจากรถยนต์ Porsche 918 Spyder และกระจกแซฟไฟร์จากหลังคาทรงดับเบิล บับเบิล โดยสำนักออกแบบ Zagato

 

 

เหนือชั้นไปกว่าแรงบันดาลใจจากความเร็วและความแรง แม็กซิลิมิเลียนยังค้นพบงานออกแบบอันประหลาดล้ำแต่ช่วยเสริมฟังก์ชันการใช้งานของ HM8 Mark2 ได้อย่างดีเยี่ยม นั่นก็คือ แรงบันดาลใจด้านการแสดงเวลา จาก Amida Digitrend นาฬิกาที่เปิดตัวในปี ค.ศ. 1976 ซึ่งทาง MB&F ได้ใช้ปริซึมแซฟไฟร์ในการช่วยให้การแสดงเวลาแบบ jumping hours และการแสดงนาทีแบบกวาด สามารถแสดงผลในแนวดิ่งได้ โดยค่าเวลาจะถูกแสดงผ่านช่องหน้าต่างซึ่งดูคล้ายกับมาตรวัดความเร็วยุคเก่าโดยจัดวางไว้บนด้านหน้าของตัวเรือนเพื่อให้สามารถมองเห็นได้อย่างง่ายดายแม้ขณะขับรถ

MB&F HM8 Mark2 ตัวเรือนไทเทเนียม เกรด 5 พร้อมด้วยคาร์บอนมาโครลอนสีขาว จับคู่กับสายหนังวัวสีเขียว พร้อมด้วยหัวเข็มขัดสายไทเทเนียม กันน้ำได้ในระดับความลึก 30 เมตร สำรองพลังงานได้ 42 ชั่วโมง ออกแบบมาเพื่อตอบสนองคุณพ่อผู้รักในความเร็ว ความแรง และดีไซน์สุดล้ำที่แฝงไว้ด้วยความคลาสสิกอย่างแท้จริง

ค้นพบคอลเลกชัน MB&F HM8 Mark2 ได้ที่ PMT The Hour Glass

 

For a Powerful Father: URWERK UR-230 Eagle

อิสระเสรี ทรงพลังดั่งพญาอินทรี ดุจนักล่าผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล นั่นคือ บุรุษผู้มีคุณสมบัติผู้นำอยู่เต็มเปี่ยม หากมั่นใจว่าคุณลักษณะนั้นตรงกับตัวคุณ ตัวเลือกในเรื่องเครื่องบอกเวลาที่สะท้อนความรักอิสระ เปี่ยมด้วยพลังงาน ซึ่งถูกห่อหุ้มไว้ภายใต้รูปลักษณ์เพรียวลมย่อมเป็นอื่นใดไปไม่ได้นอกเสียจากนาฬิกาในตระกูล UR-230 ที่ดูดุดัน และแข็งแกร่ง แต่ยังคงความปราดเปรียวในทุกสัดส่วน

 

Urwerk UR-230 Eagle
Urwerk UR-230 Eagle

 

UR-230 Eagle มีรูปลักษณ์ที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของตระกูล UR-200 มาในตัวเรือนซีทีพีคาร์บอน ซึ่งมีน้ำหนักเบา ทนทานมาในอัตราส่วนที่สร้างเส้นสายในเชิงกราฟิกได้อย่างลงตัว ฝาหลังทำจากไทเทเนียมเคลือบแบล็คดีแอลซีอันแข็งแกร่ง พื้นผิวขุดเซาะเป็นร่องทำหน้าที่ดุจกล่องเหล็กปกป้องกลไก UR-7.05 ใหม่ที่ขับเคลื่อนระบบแซตเทิลไลต์อันเป็นหัวใจของนาฬิกา และเป็นสิทธิบัตรเฉพาะของแบรนด์ โดยการปกป้องขั้นสูงสุดนี้มาพร้อมกับระบบป้องกันแรงกระแทกด้วยการติดตั้งจักรกลใบพัดแบบคู่ ที่ทำงานร่วมกัน โดยใบพัดตัวแรกทำหน้าที่ลดทอนแรงกระแทกจากภายนอกในทุกกรณี ส่วนใบพัดตัวที่สองควบคุมเรื่องการหมุนเวียนของอากาศที่เข้าไปส่งพลังงานในการขึ้นลาน

 

และสิ่งที่เสริมเพิ่มเติมเข้ามาให้ดีไซน์ดูเท่ล้ำยิ่งขึ้นย่อมเป็นหน้ากากครอบตัวเรือน ซึ่งทำจากซีทีพีคาร์บอนผสานเข้ากับไทเทเนียม หน้ากากที่ดูราวกับหน้ากากนักรบบนอากาศยานนี้เมื่อเปิดขึ้นทำมุม 90 องศาฯ จะเผยให้เห็นระบบแซตเทิลไลต์ภายใน และยังทำหน้าที่ปกป้องกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ไปในตัว หากลองนึกภาพขณะผู้สวมใส่ UR-230 ยกข้อมือขึ้น ค่อยๆ เปิดหน้ากากแล้วก้มลงดูเวลา ช่วงเวลานั้นย่อมสร้างความพิเศษไม่ซ้ำใครในการดูเวลาได้อย่างมีชั้นเชิง

ค้นพบคอลเลกชัน URWERK UR-230 Eagle ได้ที่ PMT The Hour Glass

 

Tags: constant escapement fathers day freak one girard-perregaux hm8 mark 2 hublot mbandf men watches square bang unico ulysse nardin urwerk


We’re here to help


Loading Consult A Specialist Form

Change Country

Select your country:

Share

Share via:

To find out more about our available positions, please visit our Careers page.