New Watch! • 08 Jul 2019
Freak X: เอ็กซ์แฟกเตอร์ตัวจริงของโลกแห่งการเวลา โดย Ulysse Nardin
ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา บรรดาสาวกผู้หลงใหลและเหล่าผู้เชี่ยวชาญในวงการนาฬิกาหรูต่างมุ่งหน้าสู่เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อร่วมงานแสดงนาฬิกาครั้งสำคัญของโลก พร้อมกับตั้งตารอคอยข่าวคราวการเปิดตัวสำคัญๆ จากแบรนด์นาฬิกาชั้นนำกันอย่างใจจดใจจ่อ งานนี้ความกดดันจึงอยู่ที่แบรนด์ต่างๆ ที่ต้องพากันแสดงศักยภาพ นำเอาผลงานจากการค้นคว้า พัฒนา ทั้งทางเทคนิคที่ล้ำหน้าและดีไซน์ออกมาประชันกันอย่างเต็มที่ ซึ่งแบรนด์ระดับแถวหน้าอย่าง Ulysse Nardin ก็ไม่ทำให้ใครๆ ต้องผิดหวัง ด้วยการเผยโฉมนาฬิกา Freak X ใหม่ มาท้าทายทุกกฎเกณฑ์ เพราะให้คุณได้ทั้งความแม่นยำและยังกล้าที่จะแตกต่าง
ในปี 2001 Ulysse Nardin ฉีกกรอบการสร้างเรือนเวลาด้วยการเปิดตัวคอลเลคชั่น Freak ซึ่งเป็นนาฬิกาที่ปราศจากเข็ม เม็ดมะยม และหน้าปัด (ซึ่งก็แทบจะเป็นส่วนประกอบทั้งหมดของ “นาฬิกา” ก็ว่าได้) และยังลบภาพ ลบคำจำกัดความแบบเดิมๆ ของคำว่า นาฬิกาหรู อย่างที่ทุกคนคุ้นเคย แล้วเผยการแสดงค่าเวลาจากการทำงานของกลไก Flying Tourbillion อันซับซ้อนที่เคลื่อนที่อยู่ในแกนระนาบของตัวเองอย่างเป็นอิสระ
รูปลักษณ์ของ Freak X เรียกได้ว่า แค่มองผ่านตา เห็นหน้าปัดนาฬิกาก็บอกได้เลยว่าเป็นสมาชิกของ Freak แต่ถึงอย่างนั้น Freak X ก็ยังมีรายละเอียดสำคัญๆ ที่แต่งต่าง แหวกแนวไปจาก Freak รุ่นอื่นๆ ข้อแรกเลยก็คือ เรื่องของขนาด นาฬิกา Freak ที่ผ่านมา อย่างเช่น Freak Vision เองก็มีขนาดถึง 45 มม. ส่วน Freak X นั้น ดูเหมือนว่าทาง Ulysse Nardin จะปรับลงเล็กน้อยให้เป็น 43 มม. ดูรวมๆ แล้วก็ยังคงความเป็นเรือนเวลาที่โดดเด่น เห็นแล้วสะดุดตา แต่หลายๆ คนอาจจะรู้สึก ขนาดที่ปรับเล็กลง ช่วยให้หยิบมาสวมใส่ง่ายกว่าเดิมเล็กน้อย ต่อมา ส่วนของเม็ดมะยม Freak X เป็นนาฬิการุ่นแรกในตระกูล Freak ที่ปรับเปลี่ยนจากการตั้งเวลาโดยการหมุนกรอบหน้าปัด กลับมาเป็นการใช้เม็ดยะยมแทน อันดับที่สาม ตัว Freak X นั้นมีความหลากหลายมาให้บรรดาแฟนๆ ของแบรนด์ Ulysse Nardin ได้เลือกมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นวัสดุไทเทเนียม,คาร์บอเนียม, หรือโรสโกลด์ อันดับสุดท้ายนั้น คงต้องพูดถึงเรื่องของราคา ถ้าเทียบในเรื่องราคาแล้ว Freak X เปิดตัวในราคาที่เบากว่า Freak รุ่นอื่นๆ พอสมควรทีเดียว โดยราคาจะค่อยๆ ปรับสูงขึ้น เรียงตามวัสดุ นั่นคือ ไทเทเนียม,คาร์บอเนียม, หรือโรสโกลด์ แต่ทั้งหมดทั้งมวลแล้ว Freak X ก็ยังคงเป็นนาฬิกาหรู ในราคาที่เข้าถึงได้ ซึ่งหลายๆ คนที่มีความชื่นชอบและใฝ่ฝันอยากเป็นเจ้าของนาฬิกาสวิสฯ แท้แบรนด์ดังอย่างยูลิส นาร์แดงจะต้องไม่พลาดด้วยประการทั้งปวง
นอกจากนี้ Freak X ยังเป็นนาฬิการุ่นแรกที่ใช้กลไกการทำงานแบบอัตโนมัติ Caliber UN-230 กลไกนี้เดินอยู่ที่ความถี่ 3 Hz และสามารถสำรองพลังงานได้สูงถึง 72 ชั่วโมง ถือได้ว่าเป็นกลไกที่ให้ความเชื่อมั่นเรื่องความแม่นยำ น่าเชื่อถือได้เป็นอย่างดีทีเดียว สำหรับแบรนด์นาฬิกาสวิสแท้อย่าง Ulysse Nardin เองนั้น ก็เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในเรื่องการผสมผสานงานดีไซน์ที่โดดเด่นและแตกต่าง เข้ากับศาสตร์แห่งการประดิษฐ์เรือนเวลาชั้นสูงอันเก่าแก่ ที่สั่งสมและสืบทอดมาช้านาน เมื่อรวมทุกปัจจัยแล้ว นาฬิกา Freak X ไม่ได้เป็นแค่เพียงเรือนเวลาที่โดดเด่นในความแม่นยำเหนือใครเท่านั้น แต่ยังกล้าที่จะแตกต่างต่างด้วยดีไซน์เท่ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวในแบบ Freak ที่ใครได้เห็นเป็นต้องเหลียวมอง