







หน้าปัดสีขาวเข้ม
หน้าปัดนี้มาพร้อมการตกแต่งด้วยลวดลายรังผึ้งและพื้นผิวขัดเงาซาติน การผลิตลวดลายนี้ต้องใช้ทั้งทักษะงานฝีมือแบบดั้งเดิมและเทคโนโลยีขั้นสูง โดย Rolex ได้พัฒนาทักษะเหล่านี้ขึ้นเองจนเชี่ยวชาญ โครงสร้างรังผึ้งใช้เฟมโตเซเคินเลเซอร์ในการตัด ซึ่งเป็นเทคนิคที่ใช้ในการแกะสลักลายเส้นละเอียดบริเวณช่องที่แยกรังผึ้งแต่ละอันออกจากกัน หน้าปัดมาพร้อมการแสดงผลแบบโครมาไลท์และมีเลขแสดงเวลาและขีดชั่วโมงเรืองแสงที่คมชัดในทุกสถานการณ์ พร้อมด้วยเข็มนาฬิกาเรืองแสงที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับนาฬิการุ่นนี้เท่านั้น


ขอบตัวเรือนแบบเซาะร่อง
ขอบตัวเรือนแบบเซาะร่องของ Rolex เป็นสัญลักษณ์ของความแตกต่าง แต่เดิมการเซาะร่องของขอบตัวเรือน Oyster มีขึ้นด้วยวัตถุประสงค์ด้านการใช้งาน โดยทำหน้าที่ยึดขอบตัวเรือนลงบนตัวเรือนเพื่อรับรองประสิทธิภาพในการกันน้ำของนาฬิกา จึงมีความคล้ายคลึงกับร่องบริเวณตัวเรือนด้านหลังที่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษเฉพาะของ Rolex ในการยึดลงบนตัวเรือนเพื่อการกันน้ำ แต่เมื่อเวลาผ่านไป วัตถุประสงค์ได้เปลี่ยนไป การเซาะร่องได้กลายเป็นองค์ประกอบด้านความงามและเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของ Rolex ปัจจุบันขอบตัวเรือนแบบร่องได้สร้างความโดดเด่นให้กับนาฬิกา Land-Dweller 36 ในรุ่นวัสดุทองคำ


Everose gold 18 กะรัต
เพื่อรักษาความงามของนาฬิกาพิงค์โกลด์ Rolex ได้สร้างสรรค์และจดสิทธิบัติพิงค์โกลด์อัลลอยพิเศษ 18 กะรัต ที่หล่อภายในโรงหลอมของแบรนด์ ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ Everose gold Everose 18 กะรัต เปิดตัวครั้งแรกในปี 2005 โดยได้รับการนำมาใช้กับนาฬิกา Rolex ทุกรุ่นในสีพิงค์โกลด์


รุ่นที่วางจำหน่าย

