







หินไทเกอร์ไอออน
หน้าปัดของ GMT-Master II เรือนนี้มาพร้อมหินไทเกอร์ไอออน ซึ่งเป็นหินแปรที่ Rolex นำมาใช้เป็นครั้งแรกสำหรับนาฬิการุ่นนี้ โดยมีคุณสมบัติเด่นในด้านโครงสร้างที่ซับซ้อน โดยประกอบด้วยแร่หินสามชนิดคือพลอยตาเสือ แจสเปอร์แดง และฮีมาไทต์สีเงิน หินไทเกอร์ไอออนทำให้หน้าปัดเปล่งประกายงดงามด้วยการเหลือบสีทองและส้ม ทั้งยังผ่านขั้นตอนการคัดสรรอย่างพิถีพิถันและประกอบขึ้นอย่างประณีต จนเกิดเป็นผลงานที่ผสานคู่สีของตัวเรือนและสายนาฬิกาได้อย่างลงตัว


ขอบหน้าปัดแสดงเวลา 24 ชั่วโมงแบบหมุนได้
นาฬิการุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าปัดหินไทเกอร์ไอออนและขอบหน้าปัด Cerachrom จากเซรามิกสีน้ำตาลและสีดำ นอกจากเข็มแสดงชั่วโมง นาที และวินาทีแบบนาฬิกาทั่วไปแล้ว GMT-Master II ยังมีเข็มนาฬิกาปลายลูกศรที่หมุนเป็นวงกลมรอบหน้าปัดทุก 24 ชั่วโมง พร้อมขอบหน้าปัดแสดงเวลา 24 ชั่วโมงที่หมุนได้สองทิศทาง เข็มแสดงเวลา 24 ชั่วโมงที่มีสีที่โดดเด่นจะแสดงเวลาอ้างอิงที่เป็น “ถิ่นพำนัก” ในเขตเวลาที่หนึ่ง ซึ่งอ่านได้จากขีดแบ่งบนขอบตัวเรือน ส่วนเวลาท้องถิ่นของนักเดินทางสามารถปรับตั้งได้อย่างง่ายดายโดยการตั้งแบบ "กระโดดข้าม" ทีละชั่วโมง และเนื่องจากนาฬิกามีกลไกที่ทำงานผ่านเม็ดมะยมไขลาน จึงทำให้เข็มชั่วโมงสามารถปรับเดินหน้าหรือถอยหลังได้โดยไม่ส่งผลต่อเข็มนาทีและเข็มวินาที จึงช่วยให้นักเดินทางสามารถปรับตั้งเวลาเข้ากับเขตเวลาใหม่ได้โดยไม่กระทบต่อความเที่ยงตรงของนาฬิกา


Everose gold 18 กะรัต
เพื่อรักษาความงามของนาฬิกาพิงค์โกลด์ Rolex ได้สร้างสรรค์และจดสิทธิบัติพิงค์โกลด์อัลลอยพิเศษ 18 กะรัต ที่หล่อภายในโรงหลอมของแบรนด์ ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ Everose gold Everose 18 กะรัต เปิดตัวครั้งแรกในปี 2005 โดยได้รับการนำมาใช้กับนาฬิกา Rolex ทุกรุ่นในสีพิงค์โกลด์


รุ่นที่วางจำหน่าย

