







หน้าปัดสีน้ำเงินออมเบร
หน้าปัดออมเบรได้เผยให้เห็นการผันเปลี่ยนอันละเอียดอ่อนจากสีสว่างตรงกลางหน้าปัดไปสู่สีดำมืดตรงขอบ หน้าปัดนี้ได้แสดงถึงความต่อเนื่องของดีไซน์ที่ Rolex เปิดตัวในช่วงปี 1980 และเปิดตัวอีกครั้งในปี 2019 การผลิตหน้าปัดที่มีการไล่ระดับสีมายังจุดศูนย์กลางมีความสัมพันธ์กับการลงเคลือบเงาสีดำ ซึ่งอาศัยการทำงานที่ประณีตของผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่มีหน้าที่ในการจัดการดูแลเพื่อให้มั่นใจได้ว่าการไล่สีจากสีโทนสว่างไปยังสีโทนมืดจะออกมางดงามกลมกลืน


ขอบตัวเรือนแบบเซาะร่อง
ขอบตัวเรือนแบบร่องของ Rolex เป็นสัญลักษณ์ของความแตกต่าง แต่เดิมการเซาะร่องของขอบตัวเรือน Oyster มีขึ้นด้วยวัตถุประสงค์ด้านการใช้งาน โดยทำหน้าที่ยึดขอบตัวเรือนลงบนตัวเรือนเพื่อรับรองประสิทธิภาพในการกันน้ำของนาฬิกา จึงมีความคล้ายคลึงกับร่องบริเวณตัวเรือนด้านหลังที่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษเฉพาะของ Rolex ในการยึดลงบนตัวเรือนเพื่อการกันน้ำ แต่เมื่อเวลาผ่านไป วัตถุประสงค์ได้เปลี่ยนไป การเซาะร่องได้กลายเป็นองค์ประกอบด้านความงามและเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของ Rolex ปัจจุบันขอบตัวเรือนแบบร่องได้สร้างความโดดเด่นให้กับนาฬิกา Day-Date 36 ในรุ่นวัสดุแพลทินัม


แพลทินัม
แพลทินัมเป็นโลหะล้ำค่าและหายาก โดดเด่นสะดุดตาด้วยสีเงินที่สว่างบริสุทธิ์และเปล่งประกาย หนึ่งในโลหะที่หนาแน่นที่สุดและหนักที่สุดในโลก แยกความแตกต่างได้จากคุณสมบัติเฉพาะทางด้านเคมีและกายภาพ เช่น การทนทานต่อการกัดกร่อนที่มากเป็นพิเศษ แต่โลหะนี้ก็ยังเป็นโลหะที่นุ่ม ยืดหยุ่นและมีความเป็นโลหะสูง ส่งผลให้ขั้นตอนการตัดเฉือนด้วยเครื่องจักรและการขัดเงาทำได้ยาก จนต้องอาศัยผู้ที่มีทักษะสูงมากเป็นพิเศษ Rolex ใช้แพลทินัม 950 เสมอ ซึ่งเป็นอัลลอยที่ประกอบด้วยแพลทินัม 950‰ (หนึ่งในหนึ่งพันส่วน) โดยมีช่างเหล็กฝีมือประณีตของ Rolex เป็นผู้หลอมงานภายในเอง โลหะที่ทรงภูมิที่สุดสำหรับนาฬิกาที่ประณีตที่สุด


รุ่นที่วางจำหน่าย



















