







หน้าปัดเปลือกหอยมุก
ลักษณะเด่นของหน้าปัดรุ่นนี้คือความงดงามของเพชรประดับทองคำ 18 กะรัต เปลือกหอยมุกเต็มไปด้วยความลึกลับและความน่าค้นหาโดยธรรมชาติของมัน มันอาจมีสีชมพู สีขาว สีดำ หรือสีเหลือง ขึ้นอยู่กับแหล่งกำเนิด สีที่แตกต่าง ความเข้ม และองค์ประกอบเกิดจากส่วนของเปลือกหอยที่ถูกสกัดออกมา ที่ Rolex เปลือกหอยมุกจะไม่ถูกเติมแต่งด้วยสีเลียนแบบธรรมชาติ แต่จะนำทักษะและความเชี่ยวชาญเฉพาะทางมาใช้เพื่อเน้นความงามตามธรรมชาติและรักษาสีเดิมเอาไว้ เนื่องจากหน้าปัดเปลือกหอยมุกทุกชิ้นเป็นผลงานที่เปี่ยมด้วยเอกลักษณ์ จึงสามารถมั่นใจได้ว่าจะไม่พบหน้าปัดชนิดเดียวกันบนข้อมือของบุคคลอื่น


ขอบตัวเรือนแบบเซาะร่อง
ขอบตัวเรือนแบบร่องของ Rolex เป็นสัญลักษณ์ของความแตกต่าง แต่เดิมการเซาะร่องของขอบตัวเรือน Oyster มีขึ้นด้วยวัตถุประสงค์ด้านการใช้งาน โดยทำหน้าที่ยึดขอบตัวเรือนลงบนตัวเรือนเพื่อรับรองประสิทธิภาพในการกันน้ำของนาฬิกา จึงมีความคล้ายคลึงกับร่องบริเวณตัวเรือนด้านหลังที่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษเฉพาะของ Rolex ในการยึดลงบนตัวเรือนเพื่อการกันน้ำ แต่เมื่อเวลาผ่านไป วัตถุประสงค์ได้เปลี่ยนไป การเซาะร่องได้กลายเป็นองค์ประกอบด้านความงามและเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของ Rolex ปัจจุบันขอบตัวเรือนแบบร่องได้สร้างความโดดเด่นให้กับนาฬิกา Datejust 31 ในรุ่นวัสดุทองคำ


ทองคำ 18 กะรัต
Rolex สามารถหล่อโกลด์อัลลอย 18 กะรัตที่มีคุณภาพสูงสุดได้อย่างเหนือชั้น เพราะทางแบรนด์มีโรงหล่อเฉพาะของตัวเอง การเติมเงิน ทองแดง แพลทินัม หรือพาลาเดียมตามสัดส่วนต่างๆ ทำให้ได้มาซึ่งทอง 18 กะรัตหลากหลายประเภท เช่น ทองคำ ทองคำขาว และ Everose gold โดยจะผลิตจากโลหะที่มีความบริสุทธิ์มากที่สุดเพียงเท่านั้น และผ่านการตรวจสอบภายในห้องปฏิบัติการของ Rolex อย่างพิถีพิถันด้วยเครื่องมือทันสมัย ก่อนที่จะมีการหล่อและขึ้นรูปทองคำด้วยความใส่ใจในทุกขั้นตอน เพราะปณิธานอันมุ่งมั่นของ Rolex เพื่อความเป็นเลิศนั้นเริ่มต้นนับตั้งแต่แหล่งกำเนิด


รุ่นที่วางจำหน่าย


















