







หน้าปัดสีขาว
มีการนำการเคลือบเงามาผสานเข้ากับสีสันได้อย่างไร้ขีดจำกัด ด้วยความเข้มข้นและพื้นผิวอันเรียบเนียน เทคนิคการเคลือบเงาประกอบด้วยการเคลือบเงาด้วยชั้นบางๆ หกชั้นอย่างต่อเนื่องบนแผ่นฐานทองเหลือง จากนั้นจึงใช้สารเคลือบเงาที่ไม่มีสี เพื่อให้สีหรือเงาแลดูมีมิติและเงางามบนองค์ประกอบโดยรวม เมื่อสารเคลือบเงาแห้งแล้ว พื้นผิวของหน้าปัดจะถูกขัดเงาเพื่อเพิ่มสีสัน จากนั้นหน้าปัดก็พร้อมที่จะได้รับการพิมพ์ระบบแพดและรับการตกแต่ง


ขอบตัวเรือนแบบเซาะร่อง
ขอบตัวเรือนแบบร่องของ Rolex เป็นสัญลักษณ์ของความแตกต่าง แต่เดิมการเซาะร่องของขอบตัวเรือน Oyster มีขึ้นด้วยวัตถุประสงค์ด้านการใช้งาน โดยทำหน้าที่ยึดขอบตัวเรือนลงบนตัวเรือนเพื่อรับรองประสิทธิภาพในการกันน้ำของนาฬิกา จึงมีความคล้ายคลึงกับร่องบริเวณตัวเรือนด้านหลังที่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษเฉพาะของ Rolex ในการยึดลงบนตัวเรือนเพื่อการกันน้ำ แต่เมื่อเวลาผ่านไป วัตถุประสงค์ได้เปลี่ยนไป การเซาะร่องได้กลายเป็นองค์ประกอบด้านความงามและเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของ Rolex ปัจจุบันขอบตัวเรือนแบบร่องได้สร้างความโดดเด่นให้กับนาฬิกา Datejust 31 ในรุ่นวัสดุทองคำ


Everose gold 18 กะรัต
เพื่อรักษาความงามของนาฬิกาพิงค์โกลด์ Rolex ได้สร้างสรรค์และจดสิทธิบัติพิงค์โกลด์อัลลอยพิเศษ 18 กะรัต ที่หล่อภายในโรงหลอมของแบรนด์ ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ Everose gold Everose 18 กะรัต เปิดตัวครั้งแรกในปี 2005 โดยได้รับการนำมาใช้กับนาฬิกา Rolex ทุกรุ่นในสีพิงค์โกลด์


รุ่นที่วางจำหน่าย


















