Max Büsser: จินตนาการในวัยเด็ก จะปลุกไฟแห่งความคิดสร้างสรรค์ในตัวคุณ
• 05 Jun 2019
Max Büsser: จินตนาการในวัยเด็ก จะปลุกไฟแห่งความคิดสร้างสรรค์ในตัวคุณ
ใครจะเชื่อว่า ผู้ชายหน้าตาคมเข้ม คารมคมคาย พ่วงดีกรีปริญญาโทด้านวิศวกรรมศาสตร์ไมโครเทคโนโลยีคนนี้ ครั้งหนึ่ง จะเคยเป็นเพียงเด็กชายลูกครึ่งสวิสฯ อินเดีย ผู้ใช้ชีวิตวัยเด็กอย่างโดดเดี่ยวและเงียบเหงาอยู่ในห้องที่เป็นเสมือนกรงขัง หากแต่จินตนาการเท่านั้น ที่สามารถทลายกำแพงสี่เหลี่ยม ปลดปล่อยเด็กชาย Maximilian Büsser ในวันนั้น ให้เติบโตขึ้นเป็นนักคิดนอกกรอบ ผู้ไม่ยอมละทิ้งความฝันในวัยเด็ก ให้ก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าของแบรนด์นาฬิกาอิสระ สุดยอดไอเดียสร้างสรรค์ ชื่อดังของวงการนาฬิกาโลก ในทุกวันนี้
เส้นทางการทำงานในอุตสาหกรรมนาฬิกาของ Maximilian Büsser เรียกได้ว่า โตขึ้นแบบก้าวกระโดด หลังจบการศึกษา ความสามารถที่โดดเด่นของเขาก็ไปสะดุดตา Henry-Jean Belmont ซึ่งเป็นซีอีโอของกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ Richemont Group ถึงกับเชิญชวนให้มาร่วมงานในตำแหน่ง Product Manager ให้กับแบรนด์ Jaeger-LeCoultre และเขาก็พิสูจน์ตนเองให้ทุกคนได้เห็นด้วยการนำพา Jaeger-LeCoultre ซึ่งอยู่ในภาวะประสบปัญหาอย่างหนักในขณะนั้น ให้กลับมาเติบโตขึ้นได้อย่างน่าประทับใจ ต่อมาในปี 1998 Maximilian Büsser ก็ได้รับการทาบทามให้มาดำรงตำแหน่ง Managing Director ให้กับ Harry Winston Rare Timepieces เมื่ออายุเพียง 31 ปี และเขาก็สร้างผลงาน ช่วยให้นาฬิกา Harry Winston มีชื่อเสียงและกลายเป็นที่จับตามองของเหล่านักสะสมนาฬิกาได้สำเร็จ
แม้ดูเหมือนว่า Maximilian Büsser มีทุกสิ่งที่ต้องการแล้ว แต่เขายังคงโหยหาความเป็นอิสระในการสร้างสรรค์เครื่องบอกเวลาอย่างไร้ขีดขนบมาเป็นข้อจำกัด จนในปี 2005 Maximilian Büsser ก็ตัดสินใจแยกทางกับ “วิถีแบบสามัญ” ของการผลิตเรือนเวลา ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น แล้วออกไปตามล่าความฝันในวัยเด็ก ด้วยการก่อตั้งแบรนด์ Max Büsser & Friends หรือ MB&F
ด้วยความเป็นอัจฉริยะด้านความคิดสร้างสรรค์ของตัวเอง บวกกับประสบการณ์ที่สั่งสมจากการทำงานร่วมกับบุคลากรระดับสุดยอดฝีมือของวงการนาฬิกา Maximilian Büsser และ MB&F ในฐานะแบรนด์นาฬิกาอิสระ (Independent Watchmaker) หรือ ที่นิยมเรียกกันสั้นๆ ว่า นาฬิกาอินดี้ ก็ได้แจ้งเกิดผลงานระดับ masterpiece ที่มีความเป็นเลิศทั้งด้านวิศวกรรมกลไกและรูปลักษณ์ที่สวยล้ำ ดูแปลกตา ชิ้นแล้วชิ้นเล่า ออกสู่สายตาของเหล่าคนรักนาฬิกาทั่วโลก รวมทั้งสองคอลเลคชั่น ที่ถือได้ว่า สะท้อนความเชื่อมั่นเรื่องจินตนาการในวัยเด็กของ Maximilian Büsser ได้อย่างชัดเจนที่สุด นั่นคือ Horological Machines (HM) เครื่องบอกเวลาที่รูปลักษณ์และกลไก ได้แรงบันดาลใจจากจินตนาการอันบรรเจิดในวัยเด็ก ไม่ว่าจะเป็น หนัง Sci-Fi รถแข่ง และเครื่องบิน และ Legacy Machines (LM) ผลงานจากการจินตนาการหน้าตาของเรือนเวลาอันเป็นเอกลักษณ์ของ MB&F หากย้อนเวลากลับไปเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้ว
HM8 – Horological Machine No.8 เครื่องบอกเวลารูปลักษณ์ล้ำสมัยที่ได้แรงบันดาลใจจากความใฝ่ฝันเรื่องรถแข่งในวัยเด็ก
LMSE – Legacy Machine Split Escapement Titanium Green เรือนเวลาสุดเอ็กซ์คลูซีฟจาก MB&F ที่มีอยู่เพียง 33 เรือนทั่วโลกเท่านั้น
LM FlyingT – เรือนเวลาสวยสง่างามสำหรับสุภาพสตรีที่ MB&F ออกแบบให้เป็นของขวัญชิ้นพิเศษของผู้หญิงอย่างแท้จริง
อัพเดททุกข่าวสารและความล้ำหน้า จากโลกเรือนเวลาแห่งอนาคตของ MB&F ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย Facebook และ Instagram