News • 21 Aug 2024
เวียดนามเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดงาน Grand Prix d’Horlogerie de Genève
งาน Grand Prix d’Horlogerie de Genève (GPHG) จัดขึ้นทุกปีในเดือนพฤศจิกายน เพื่อเฉลิมฉลองความเป็นเลิศในการผลิตนาฬิกา ซึ่งปีนี้เป็นครั้งแรกที่เวียดนามจะเป็นเจ้าภาพจัดงาน GPHG Exhibition ร่วมกับ The Hour Glass ซึ่งหลังจากจบงานในนครโฮจิมินห์แล้ว งานนี้จะจัดขึ้นที่นิวยอร์ก เจนีวา และบูคาเรสต์
เวียดนามเป็นเพียงประเทศเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เป็นเจ้าภาพจัดงาน GPHG Exhibition ในปีนี้ อีกทั้งยังเข้าร่วมอยู่ในลิสต์เดียวกับกัวลาลัมเปอร์ที่มีบทบาทในการจัดงานปีที่แล้ว โรงละครโอเปร่าไซง่อนอันเป็นสัญลักษณ์แห่งนครโฮจิมินห์คือสถานที่จัดงาน GPHG Exhibition ในครั้งนี้ โดยมีการจัดแสดงนาฬิกาทั้งหมดที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลอันทรงเกียรติ
วันที่และสถานที่จัดงาน Grand Prix d’Horlogerie de Genève Exhibition มีดังนี้:
-
ฮ่องกง (28 กันยายน – 30 กันยายน)
-
โฮจิมินห์ (9 ตุลาคม – 10 ตุลาคม)
-
นิวยอร์ก (18 ตุลาคม – 21 ตุลาคม)
-
เจนีวา (31 ตุลาคม – 17 พฤศจิกายน)
-
บูคาเรสต์ (22 พฤศจิกายน – 23 พฤศจิกายน)
งาน Grand Prix d’Horlogerie de Genève
ทุกเดือนพฤศจิกายนของทุกปี จะมีการจัดพิธีมอบรางวัล Grand Prix d’Horlogerie de Genève เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองและรวมตัวกันในอุตสาหกรรมการผลิตนาฬิกา โดยมอบรางวัลทรงเกียรติให้กับผลงานการสร้างสรรค์นาฬิกาที่โดดเด่นในปีนั้น งานประกาศรางวัล GPHG ประจำปีนับเป็นงาน ‘ออสการ์’ ของอุตสาหกรรมนาฬิกา เนื่องจากเป็นงานสำคัญของปีสำหรับทั้งนักสะสมและผู้ที่หลงใหลในเรือนเวลา งานประกาศรางวัล GPHG ครั้งที่ 24 ซึ่งนับตั้งแต่จุดเริ่มต้นในปี 2001 จะจัดขึ้น ณ Théâtre du Léman ที่เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในวันที่ 13 พฤศจิกายนนี้
The Hour Glass จะมีส่วนร่วมในงาน GPHG ที่จัดขึ้นเพียงครั้งเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจัดการแสดงพิเศษที่นครโฮจิมินห์ในระหว่างวันที่ 9 และ 10 ตุลาคม หลังจากจัดแสดงที่ฮ่องกงในระหว่างวันที่ 28 ถึง 30 กันยายน โดยงาน GPHG Exhibition ในเวียดนาม จะจัดขึ้นที่โรงละครโอเปร่าไซง่อนในนครโฮจิมินห์ ซึ่งได้รับขนานนามว่าเป็น ‘มหาวิหารแห่งศิลปะ’
“GPHG เป็นเวทีพิเศษอันโดดเด่นที่ยกย่องนวัตกรรมในการรังสรรค์นาฬิกา อันรวมถึงการออกแบบและงานฝีมือ การเลือกนครโฮจิมินห์เป็นสถานที่จัดงาน ตอกย้ำถึงความสำคัญของเมืองในโลกแห่งการผลิตนาฬิกา ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจของ The Hour Glass ในการส่งเสริมวัฒนธรรมของนาฬิกาอันก้าวหน้าและมอบโอกาสให้กับผู้ที่ชื่นชอบได้เข้าถึงนาฬิกาอันน่าทึ่ง”
Tran Thanh Hai, ผู้จัดการทั่วไปของ The Hour Glass เวียดนาม
โรงละครโอเปร่าไซง่อนสร้างเสร็จในปี 1900 โดดเด่นด้วยการผสมผสานสถาปัตยกรรมกรีก-โรมันเข้าด้วยกัน ออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความงดงามของศิลปะอย่างเต็มรูปแบบ สถานที่แห่งนี้จะเป็นฉากหลังที่สมบูรณ์แบบสำหรับงาน GPHG Exhibition ที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งเป็นดังการเฉลิมฉลองของทั้งงานศิลปะ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมอย่างลงตัว ท่ามกลางการรวบรวมผลงานสร้างสรรค์นาฬิกาเหนือระดับ
เกี่ยวกับ GPHG
Grand Prix d’Horlogerie de Genève ก่อตั้งขึ้นในปี 2001 ในฐานะมูลนิธิที่ไม่แสวงหาผลกำไร โดยมีความมุ่งมั่นที่จะเฉลิมฉลอง เชิดชู และส่งเสริมศิลปะการรังสรรค์นาฬิกาทั่วโลก โดยมีการจัดพิธีมอบรางวัลมาแล้วทั้งหมด 23 ครั้ง การจัดงานปีนี้จะเป็นครั้งที่ 24 โดยมีการเสนอชื่อนาฬิกา 90 เรือน เข้าแข่งขันประจำปี 2024 โดยรายชื่อนาฬิกาที่ผ่านการคัดเลือกจะประกาศในวันที่ 27 สิงหาคม
นาฬิกาที่เข้ารอบผ่านการคัดเลือกโดย GPHG Academy ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิก 970 รายที่กำลังร่วมลงคะแนนในรอบแรกเพื่อคัดเลือกนาฬิกาทั้ง 90 เรือน อะคาเดมีนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 2020 เพื่อสะท้อนคุณค่าด้านความเป็นกลาง ความเป็นอิสระ และความเป็นสากล สมาชิกไม่เพียงเสนอรุ่นนาฬิกาที่มีคุณสมบัติเหมาะสมควบคู่ไปกับการส่งผลงานเข้าประกวดตามธรรมเนียมของแบรนด์ต่างๆ เท่านั้น แต่พวกเขาจะมีส่วนร่วมในการลงคะแนนเสียงเพื่อตัดสินเลือกผู้ชนะรางวัลอีกด้วย
.
ด้วยประวัติอันยาวนานกว่าสองทศวรรษ GPHG ได้สร้างความมั่นคงให้กับสถานะของตนในฐานะงานที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์นาฬิกา แต่ละรางวัลของ GPHG เป็นที่ปรารถนาอย่างสูงในวงการ เนื่องจากเป็นการสร้างการยอมรับที่มากขึ้นในหมู่เพื่อนร่วมอาชีพ รวมทั้งเพิ่มความน่าสนใจโดยรวมให้แก่วงการนี้ด้วย
สำหรับรางวัลนี้ จะมีโทรฟี GPHG อันเป็นเอกลักษณ์ที่รังสรรค์ขึ้นจากบรอนซ์ชุบทองโดยกลุ่ม TEC และออกแบบโดย Roger Pfund กราฟิกดีไซเนอร์จากเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดย Pfund ได้ออกแบบหนังสือเดินทางของสวิตเซอร์แลนด์ รวมถึงธนบัตรฟรังก์สวิสจำนวนมาก การออกแบบโทรฟีเป็นรูปมือ สื่อถึงสัญลักษณ์แห่งทักษะและความเชี่ยวชาญเป็นเลิศ ซึ่งเป็นสองแง่มุมสำคัญในการรังสรรค์นาฬิกา
แรงบันดาลใจในการออกแบบโทรฟีของ Pfund มาจากภาพจิตรกรรมฝาผนังบนเพดานของโบสถ์น้อยซิสทีน ซึ่งวาดโดยไมเคิลแองเจโล ภาพนี้แสดงให้เห็นตอนที่พระเจ้าสัมผัสมือที่ยื่นออกมาของอาดัมเพื่อให้ชีวิตแก่เขา ในขณะเดียวกันก็เป็นสัญลักษณ์แห่งความทรงจำและการส่งต่อความรู้
หากคุณอยู่ในเวียดนามในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนตุลาคม ต้องไม่พลาดที่จะไปเยือนโรงละครโอเปร่าไซ่ง่อนและชมงานนิทรรศการ Grand Prix d’Horlogerie de Genève ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 10 และ 11 ตุลาคมนี้