







หน้าปัดสีชมพูกุหลาบ
ลักษณะเด่นของหน้าปัดรุ่นนี้คือความงดงามของเพชรประดับทองคำ 18 กะรัต และเพชรเจียระไนสี่เหลี่ยมยาวที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกาและ 9 นาฬิกา การตกแต่งผิวซันเรย์ยังรังสรรค์แสงสะท้อนอันละเอียดอ่อนบนหลากหลายหน้าปัดในคอลเลกชัน Oyster Perpetual โดยใช้เทคนิคการแปรงพิเศษเฉพาะระดับมืออาชีพในการสร้างร่องที่ปัดออกจากกลางหน้าปัด แสงจะกระจายไปตามการแกะสลักของงานแต่ละชิ้นอย่างสม่ำเสมอ เนรมิตให้เกิดแสงอันงดงามที่มีลักษณะเฉพาะและเคลื่อนไหวไปตามท่วงท่าของข้อมือ หลังจากตกแต่งผิวซันเรย์เสร็จสมบูรณ์แล้ว สีของหน้าปัดจะถูกนำเข้ากระบวนการตกตะกอนของไอสสารหรือการชุบโลหะด้วยไฟฟ้า การเคลือบเงาอย่างเบาบางช่วยเสริมความงามให้กับหน้าปัดเป็นขั้นสุดท้าย


ขอบตัวเรือนแบบเซาะร่อง
ขอบตัวเรือนแบบเซาะร่องของ Rolex เป็นสัญลักษณ์ของความแตกต่าง แต่เดิมการเซาะร่องของขอบตัวเรือน Oyster มีขึ้นด้วยวัตถุประสงค์ด้านการใช้งาน โดยทำหน้าที่ยึดขอบตัวเรือนลงบนตัวเรือนเพื่อรับรองประสิทธิภาพในการกันน้ำของนาฬิกา จึงมีความคล้ายคลึงกับร่องบริเวณตัวเรือนด้านหลังที่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษเฉพาะของ Rolex ในการยึดลงบนตัวเรือนเพื่อการกันน้ำ แต่เมื่อเวลาผ่านไป วัตถุประสงค์ได้เปลี่ยนไป การเซาะร่องได้กลายเป็นองค์ประกอบด้านความงามและเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของ Rolex ปัจจุบันขอบตัวเรือนแบบร่องได้สร้างความโดดเด่นให้กับนาฬิกา Day-Date 36 ในรุ่นวัสดุทองคำ


Everose gold 18 กะรัต
เพื่อรักษาความงามของนาฬิกาพิงค์โกลด์ Rolex ได้สร้างสรรค์และจดสิทธิบัติพิงค์โกลด์อัลลอยพิเศษ 18 กะรัต ที่หล่อภายในโรงหลอมของแบรนด์ ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ Everose gold Everose 18 กะรัต เปิดตัวครั้งแรกในปี 2005 โดยได้รับการนำมาใช้กับนาฬิกา Rolex ทุกรุ่นในสีพิงค์โกลด์


รุ่นที่วางจำหน่าย

